สาระน่ารู้ ประจำเดือน กับเรื่องราวดีๆ
พร้อมประโยชน์เกี่ยวกับผักและผลไม้
และทางเลือกใหม่ สำหรับสมาชิก
ที่รักสุขภาพ ...

ลูกจัน รู้จักกันไหม

คนรุ่นใหม่น้อยคนนักที่จะรู้จักหรือเคยเห็นผลไม้ชนิดนี้ เพราะต้น “จัน” ไม่นิยมปลูกและหาดูได้ยากแล้วในปัจจุบัน จันเป็นต้นไม้พื้นบ้านของไทย จัดอยู่ในสกุล Diospyros เช่นเดียวกับพลับ ผลทรงกลมขนาดเล็ก มีกลีบเลี้ยงอยู่ตรงขั้วผล ผลดิบสีเขียว เมื่อสุกสีเหลืองนวล จุดเด่นของลูกจันสุกอยู่ที่มีกลิ่นหอมชื่นใจมาก คนไทยแต่โบราณจึงนิยมเก็บมาดมและวางไว้ตามมุมห้อง เพื่อให้ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว

จันมีผล 2 แบบคือ ผลกลมแป้นและผลกลมรี ซึ่งบางท้องถิ่นเรียกชื่อต่างกันไปว่า ลูกจันและลูกอิน แต่ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตนสถาน ได้อธิบายลักษณะของผลจันไว้ว่า แบ่งออกเป็น “จันอิน” คือจันชนิดลูกกลมแป้น ส่วน “จันโอ” คือจันชนิดผลกลมรี และมีเมล็ด ซึ่งแตกต่างของผลทั้งสองชนิดนี้ เกิดจากการที่จันอินมีเมล็ดที่ไม่สมบูรณ์เพศ ลีบแบน หรือไม่มีเมล็ดเลย ผลจึงมีลักษณะบุ๋มตรงกลาง ขณะที่จันโอเมล็ด 2-3 เมล็ด ทำให้จันโอมีผลรูปร่างกลมรี เนื้อน้อยกว่าจันอิน โดยเมล็ดจันโอเป็นเมล็ดแบบสมบูรณ์เพศ สามารถนำไปใช้ขยายพันธุ์ได้

แม้ผลจันหรือลูกจันจะมีขนาดเล็ก แต่ก็เปี่ยมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดอาการอักเสบ และอาจส่งผลยับยั้งการเจริญเติมโตของเซลล์มะเร็ง สรรพคุณทางยาของลูกจันคือ บรรเท่าอาการท้องเสีย ช่วยบำรุงกำลังให้ร่างกาย แก้อาการนอนไม่หลับ นอกจากนี้ส่วนต่าง ๆ ของต้นจันยังนำมาใช้เป็นยาได้ เช่น แก่นใช้แก้ไอ แก้ไข้ บำรุงตับและปอด เนื้อไม้ใช้แก้อาการอ่อนเพลีย แก้ไข้ ขับพยาธิ บำรุงเลือด และบำรุงหัวใจ

ลูกจันดิบสามารถนำมาตำส้มตำกินได้ ส่วนผลสุกเนื้อจะนุ่มฉ่ำน้ำรสหวานอ่อน ๆ ปนฝาด ซึ่งเคล็ดลับในการกินลูกจันสุกให้อร่อยของคนสมัยก่อนก็คือ ใช้มือนวดคลึงผลให้น่วมก่อน เพื่อลดความฝาดลง หรือจะนำไปทำขนมหวานก็ได้ โดยเลือกผลจันสุกมาปอกเปลือก แคะเมล็ด ฉีกเนื้อเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในน้ำกะทิที่ตั้งไฟอ่อนแล้วเติมน้ำตาลปี๊บเพิ่มความหวาน กินคู่กับข้าวเหนียวมูน ยิ่งได้รสชาติหวานมันหอม

ขอบคุณที่มา http://prayod.com

 

 
 


CopyRight 2007.
Thai Fresh Market | support@thaifreshmarket.net
powered by i.oum